2410 ปาสเตอร์เป็นผู้แถลงว่าการเน่าและการหมักเกิดจาก เชื้อโรค หรือ จุลินทรีย์ ปาสเตอร์ได้ค้นพบปรากฏการณ์นี้ในระหว่างการศึกษาว่าเหตุใด เหล้าองุ่น จึงเสียรสขณะบ่ม แต่เมื่อนำเหล้าองุ่นไปอุ่นให้ร้อนแล้วจึงป้องกันไม่เหล้าองุ่นกลายเป็น น้ำส้มสายชู ได้ ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ต่อมาได้พัฒนาเป็น การฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ (Pasteurization) การค้นพบนี้ทำให้สาขาวิชาจุลชีววิทยาโดดเด่นก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว การทดลองที่มีชื่อเสียงของปาสเตอร์เมื่อปี พ. 2424 ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แกะ และ วัว ที่ได้รับการฉีด " วัคซีน " ที่ทำจากเชื้อ จุลินทรีย์บาซิลไล ซึ่งเป็นสมมติฐานของ โรคแอนแทรค ที่ถูกทำให้อ่อนจางลงของเขา สามารถต่อสู้กับ โรคระบาด ที่มีอันตรายของสัตว์คือ โรคแอนแทรค ดังกล่าวได้โดยไม่ติดโรค ในปี พ.
ลิงก์ข้ามภาษา ในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจาก วิกิพีเดียภาษาไทย ยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด หลุยส์ ปาสเตอร์ Louis Pasteur เกิด 27 ธันวาคม ค. ศ. 1822 Dole, แคว้นฟร็องช์-กงเต ฝรั่งเศส เสียชีวิต 28 กันยายน ค. 1895 (72 ปี) Marnes-la-Coquette, จังหวัดโอดแซน สัญชาติ ชาวฝรั่งเศส พลเมือง ฝรั่งเศส ศิษย์เก่า École Normale Supérieure มีชื่อเสียงจาก การฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ วัคซีน อาชีพทางวิทยาศาสตร์ สาขา เคมี และ จุลชีววิทยา สถาบันที่ทำงาน Dijon Lycée มหาวิทยาลัยสทราซบูร์ Lille University of Science and Technology École Normale Supérieure ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก Charles Friedel [1] ลายมือชื่อ หลุยส์ ปาสเตอร์ ( / ˈ l uː i p æ ˈ s t ɜːr /, ภาษาฝรั่งเศส: [lwi pastœʁ]; 27 ธันวาคม ค. 1822 - 28 กันยายน ค. 1895) เป็นนัก เคมี และนัก จุลชีววิทยา เกิดที่เมืองโดล ประเทศ ฝรั่งเศส ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเบซากองและ มหาวิทยาลัยปารีส ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ในสถาบันการศึกษาที่สตราบวร์ก ลิลล์ และมหาวิทยาลัยปารีส และได้รับการแต่งตั้งเป็น ศาสตราจารย์ สาขาเคมีที่ มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ในปี พ.
1822 เป็นบุตรเจ้าของโรงฟอกหนัง ในเมืองซึ่งอยู่ใกล้กับดิจอง เขาไปยอมเจริญรอยตามบิดา ปาสเตอร์ไต่เต้าจากฐานะครูสอนวิชาเคมี จนได้เป็นผู้อำนวยการสาขาวิทยาศาสตร์ ในวิทยาลัยครูที่มีชื่อเสียงของปารีส คือ Ecole Normale Superieu 4 ปีต่อมา คือเมื่อปี ค.
ศ.
2องศาเซลเซียส – หลุยส์ ปาสเตอร์ ค้นพบวิธีรักษาโรคพิษสุนัขบ้าจากการเพาะเชื้อวัคซีน และนำไปทดลองกับสัตว์ปรากฏว่าได้ผลเป็นอย่างดี ต่อมามีเด็กโดนสุนัขกัด พ่อกับแม่ของเด็กเห้นว่าไม่น่าจะรอดจึงลองเอามาให้ หลุยส์ ปาสเตอร์ รักษาดู เขาทดลองวัคซีนกับเด็กคนนั้นปรากฏว่าเด็กน้อยผู้นั้นไม่เป็นอะไรไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้การค้นพบครั้งนั้นของเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีก – ในปี ค.
ศ. 2365 ที่เมืองโดล เมืองเล็กๆ ในภาคตะวันออกของฝรั่งเศส (ตรงกับรัชสมัยในหลวง ร. 2) บิดาของปาสเตอร์เป็นช่างฟอกหนังชื่อ ชอง โจเซฟ ปาสเตอร์ ครอบครัวยากจน ปาสเตอร์ได้รับการศึกษาครั้งแรกที่จังหวัดอาร์บัวส์ ฉายแววเก่งและมุ่งมั่นในแขนงวิทยาศาสตร์และแถมยังมีพรสวรรค์ในด้านงานศิลปะ โดยเฉพาะการวาดภาพ… เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเบซากองและมหาวิทยาลัยปารีส สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์เมื่ออายุเพียง 25 ปี ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ในสตราบวร์ก ลิลล์ และมหาวิทยาลัยปารีส …ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์สาขาเคมีที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ในปี พ.
1894 ศพของเขาฝังไว้ในสุสานหินอ่อน อันสง่างามในสถาบันแห่งนั้น คำจารึกที่สุสานของตนเอง ซึ่งเขาได้ประพันธ์เตรียมเอาไว้ มีความว่า "กฎที่มีตัวเราเป็นเครื่องมือ คือกฎแห่งสันติภาพ การงาน และสุขภาพนั้น ย่อมเสาะหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อช่วยให้มนุษย์ พ้นจากความหายนะที่ตามล้างผลาญ " "โชคชะตามีไว้สำหรับคนที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว " -หลุยส์ ปาสเตอร์- อ้างอิง:,
1880 เพื่อผู้หนึ่งซึ่งเป็นสัตวแพทย์ ให้สุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าแก่เขา 2 ตัว เพื่อใช้ทดลอง ผู้ที่ถูกสุนัขบ้ากัดจะไม่แสดงอาการในช่วง 3 – 12 สัปดาห์ จากนั้นจึงเริ่มชักกระตุก เพ้อคลั่ง กลัวการกลืนน้ำอย่างยิ่ง และตายภายใน 2 – 3 วัน วิธีรักษา คือ ใช้กรดคาร์บอลิก หรือเหล็กเขี่ยไฟที่ร้อนแดง จี้แผลที่ถูกกัด แต่ " การรักษาแบบนี้มักเป็นเหตุให้คนไข้ตาย ปาสเตอร์ต้องการหาวิธีที่ไม่โหดร้ายทารุณ เขาไปเก็บตัวอยู่ในป่าเมอดง ใกล้ปารีส เขาขังสุนัขที่เป็นโรคกลัวน้ำไว้ที่นี่ 50 ตัว และพบเชื้ออยู่ในน้ำลาย และระบบประสาทของสุนัข ในฤดูใบไม้ผลิปี ค. 1884 หลังจากทดลองกับสุนัข และกระต่ายนับสิบๆ ครั้ง เขาก็เพาะวัคซีนไวรัสพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นเชื้อที่อ่อนแรงแล้วได้สำเร็จ นอกจากจะช่วยต่อสู้โรคพิษสุนัขบ้าแล้ว ผลงานด้านวัคซีนของปาสเตอร์ ยังช่วยเบิกทางสู่วิชาแพทย์แขนง " วิทยาภูมิคุ้มกัน " (immunology) ทุกวันนี้มีโรคที่ให้พิการ หรือถึงแก่ชีวิตประมาณ 30 ชนิด รวมทั้งโรคหัด โรคโปลิโอ และโรคคอตีบ ซึ่งป้องกันได้ ด้วยการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน ในปี ค. 1888 ได้มีการเปิดสถาบันปาสเตอร์ ในกรุงปารีส งานส่วนหนึ่ง คือเพื่อค้นคว้าวิจัย เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าต่อไป ต่อมาแม้อาการเส้นโลหิตแตก จะทำให้ปาสเตอร์มีสภาพกึ่งอัมพาต แต่กระนั้นเขาก็ยังดำรงตำแหน่งผู้นำของสถาบันแห่งนี้ จวบจนกระทั่งถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.