ในสภาพอากาศเย็นให้เลื่อนปุ่มปรับความเร็วพัดลมไปตำแหน่ง H1 สักครู่เพื่อช่วยลดความชื้นและไล่ฝ้าที่กระจก การปรับความเย็นในห้องโดยสาร 1. ติดเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว เปิดน้ำยาแอร์และความเร็วของพัดลมให้แรงสุดเมื่อได้อุณหภูมิภายในห้องโดยสารเป็นที่ต้องการแล้ว ให้ลดน้ำยาและความแรงของพัดลมเพื่อให้อุณหภูมิของห้องโดยสารคงที่ตลอดเวลา 2. เพื่อให้อากาศเย็นเร็วขึ้นให้เลื่อนปุ่มเปิดรับอากาศไปตำแหน่งอากาศไหลวน ขอขอบคุณรูปภาพจาก ฝ่ายฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ) แสดงความคิดเห็น (30) ดีมากคับแต่อยากให้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวนการสูญเสียคาวมร้อนจะดีมากคับ จาก: pon เป็นการอธิบายที่ดีมาก แต่น่าจะมีตัวอย่างมาประอีกน่าจะสมบูรณ์กว่านี้ นะคับ แต่ยังไงก็ดีมากครับ... น่าให้ความสนับสุนและเป็นกำลังใจให้ต่อไป กิจติพงษ์_ME ผมอยากทราบถึงระบบทำพื้นให้เย็นครับ เกรียวไกร อธิบายเข้าใจดีนะครับ ถ้าได้การสร้างคงจรา เพราะจะเอาไปทำโคลงงาน งิๆ 3!
/ตรม. ตะกั่วพิเศษในปลั๊กละลาย จะละลายออกให้สารทำความเย็นออกสู่บรรยากาศภายนอก เพื่อป้องกันมิให้เกิดการเสียหายแก่อุปกรณ์ต่าง ๆ หน่วยทำความเย็น (cooling unit) ประกอบด้วย อิวาพอเรเตอร์ โบล์เวอร์ มอเตอร์ และ พัดลม เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว และ อ่างน้ำทิ้ง สิ่งดังกล่าวนี้ติดตั้ง ภายในรถยนต์ ในเครื่องปรับอากาศบางแบบ พัดลมและโบล์เวอร์ มอเตอร์ทำเป็น ชุดเดียวกัน อ่างน้ำทิ้ง ยังทำหน้าที่ เป็นตัวเรือนของเครื่องปรับอากาศด้วย และ อีกจุดประสงค์หนึ่งจะเก็บน้ำจากการกลั่นตัวของ คอล์ยเย็น ( อิวาพอเรเตอร์) ปล่อยไหลออกไปนอกรถยนต์ ซึ่งป้องกัน น้ำรั่วเข้าภายในรถยนต์
หมวดหมู่:ระบบปรับอากาศรถยนต์ Car Air Conditioning รีซีฟเวอร์ไดเออร์ ( Receiver Dryer) รีซีฟเวอร์ไดเออร์ ( Receiver Dryer)หรือท่อพักสารความแย็น บางครั้งอาจเรียกว่า "ไดเออร์" จะติดตั้งอยู่ระหว่าง คอนเดนเซอร์ กับเอ็กเพ็นชั่นวาล์ว รูปแสดงตำแหน่งคอนเดนเซอร์ (ที่มา) โดยในรถยนต์นั่งทั่วๆไปจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ารถ (ห้องเครื่อง) เพื่อความสะดวกในการติดตั้งและบำรุงรักษา ตลอดจนการตรวจเช็ค รูปแสดง ตำแหน่งรีซีฟเวอร์ไดเออร์ ในรถยนต์ ( ที่มา) ส่วนประกอบและหน้าที่ต่างๆของ รีซีฟเวอร์ไดเออร์ รูปแสดง ส่วนประกอบต่างๆของ รีซีฟเวอร์ไดเออร์ จากรูป รีซีฟเวอร์ไดเออร์มีส่วนประกอบและหน้าที่ต่างๆ ดังนี้ 1. ตัวเรือน ทำจากโลหะ รูปทรงกระบอก โดยที่ด้านข้างจะมีสติกเกอร์ติดเพื่อบ่งบอก ทิศทางการไหลของสารความเย็น 2. ท่อทางเข้า จะต่อมาจากคอนเดนเซอร์ ซึ่งบริเวณด้านบนจะมีอักษร "IN" เพื่อบ่งบอกว่าเป็นท่อทางเข้า 3. แผ่นกรอง (Filter) จะกรองสิ่งสกปรกที่ติดมากับสารควมเย็น เช่น เศษชิ้นส่วนที่สึกหรอของคอมเพรสเซอร์ 4. สารดูดความชื้น (Desiccant) จะบรรจุอยู่ในถุงอีกชั้นหนึ่งโดยอยู่ในสถานะของแข็ง ทั่วๆไปทำมาจาก ซิลิกาเจล (Silica gel) หรือโมบิลเจล (Mobil gel) ทำหน้าที่ดูดความชื้นที่ติดมากับสารความเย็น 5.
ปลั๊กหลอมละลาย บางครั้งเรียกว่า " โบลต์ละลาย " ตัวโบลต์จะมีรูทะลุจากปลายถึงหัว โดยภายในจะมีตะกั่วพิเศษปิดรูไว้อยู่ ซึ่งปลั๊กหลอมละลายจะทำหน้าที่ปล่อยสารความเย็นออกจากระบบ (ตะกั่วจะละลาย) ในกรณีที่ความดันและอุณหภูมิด้านสูงมากเกินไป ( ความดันสูงถึง 30 bar, 427 psi อุณหภูมิ ที่ 95 -100 oC, 203-212 oF) 9. ท่อทางออก จะไปยังกับเอ็กเพ็นชั่นวาล์ว
ตัวเรือน ทำจากโลหะ รูปทรงกระบอก โดยที่ด้านข้างจะมีสติกเกอร์ติดเพื่อบ่งบอก ทิศทางการไหลของสารความเย็น 2. ท่อทางเข้า จะต่อมาจากคอนเดนเซอร์ ซึ่งบริเวณด้านบนจะมีอักษร "IN" เพื่อบ่งบอกว่าเป็นท่อทางเข้า 3. แผ่นกรอง (Filter) จะกรองสิ่งสกปรกที่ติดมากับสารควมเย็น เช่น เศษชิ้นส่วนที่สึกหรอของคอมเพรสเซอร์ 4. สารดูดความชื้น (Desiccant) จะบรรจุอยู่ในถุงอีกชั้นหนึ่งโดยอยู่ในสถานะของแข็ง ทั่วๆไปทำมาจาก ซิลิกาเจล (Silica gel) หรือโมบิลเจล (Mobil gel) ทำหน้าที่ดูดความชื้นที่ติดมากับสารความเย็น 5. ตะแกรงกรอง (Strainer) ทำจากลวดเส้นเล็กๆสานกันเป็นตะแกรง ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรก คล้ายกับแผ่นกรอง โดยครอบท่อส่งสารความเย็นไว้ 6. ท่อส่งสารความเย็น (Pickup tube) หรือบางครั้งเรีกว่า " ท่อรีซีฟเวอร์ (Receiver tube) " ทำหน้าที่ส่งสารความเย็นภายในตัวเรือนออกไปยังท่อทางออก โดยที่ปลายที่จะอยู่ด้านล่างของตัวเรือน 7. กระจกมองสารความเย็น (Sight galss) ทำมาจากกระจกอยู่บริเวณด้านบนของตัวเรือน เชื่อมต่อกับท่อส่งสารความเย็น ซึ่งเป็นจุดเดียวในระบบปรับอากาศรถยนต์ที่จะมองเห็นสารความเย็นในระบ เวลาที่ระบบทำงาน (การมองเห็นสารความเย็นจะเป็นตัวบ่งบอกว่า ในระบบมีสารความเย็นมากน้อย หรือไม่มีเลย) 8.
ตะแกรงกรอง (Strainer) ทำจากลวดเส้นเล็กๆสานกันเป็นตะแกรง ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรก คล้ายกับแผ่นกรอง โดยครอบท่อส่งสารความเย็นไว้ 6. ท่อส่งสารความเย็น (Pickup tube) หรือบางครั้งเรีกว่า " ท่อรีซีฟเวอร์ (Receiver tube) " ทำหน้าที่ส่งสารความเย็นภายในตัวเรือนออกไปยังท่อทางออก โดยที่ปลายที่จะอยู่ด้านล่างของตัวเรือน 7. กระจกมองสารความเย็น (Sight galss) ทำมาจากกระจกอยู่บริเวณด้านบนของตัวเรือน เชื่อมต่อกับท่อส่งสารความเย็น ซึ่งเป็นจุดเดียวในระบบปรับอากาศรถยนต์ที่จะมองเห็นสารความเย็นในระบ เวลาที่ระบบทำงาน (การมองเห็นสารความเย็นจะเป็นตัวบ่งบอกว่า ในระบบมีสารความเย็นมากน้อย หรือไม่มีเลย) 8. ปลั๊กหลอมละลาย บางครั้งเรียกว่า " โบลต์ละลาย " ตัวโบลต์จะมีรูทะลุจากปลายถึงหัว โดยภายในจะมีตะกั่วพิเศษปิดรูไว้อยู่ ซึ่งปลั๊กหลอมละลายจะทำหน้าที่ปล่อยสารความเย็นออกจากระบบ (ตะกั่วจะละลาย) ในกรณีที่ความดันและอุณหภูมิด้านสูงมากเกินไป ( ความดันสูงถึง 30 bar, 427 psi อุณหภูมิ ที่ 95 -100 oC, 203-212 oF) 9. ท่อทางออก จะไปยังกับเอ็กเพ็นชั่นวาล์ว รูปแสดงรีซีฟเวอร์ไดเออร์ (ที่มา) การทำงานของ รีซีฟเวอร์ไดเออร์ จากรูปสารความเย็นจากคอนเดนเซอร์เข้าที่ท่อทางเข้า ในสถานะของผสม ส่วนที่เป็นก๊าซจะลอยอยู่ด้านบน(ฟุ้งเต็มภายในตัวเรือน) และส่วนที่เป็นของเหลวจะตกลงสู่ด้านล่างของตัวเรือน โดยก่อนจะถึงด้านล่างสารความเย็นจะผ่าน แผ่นกรอง (กรองสิ่งสกปรก) ผ่านสารดูดความชื้น ความชื้นที่ติดมากับสารความเย็นจะถูกดูดออก ณ.
แอ็คเพนชั่นวาล์วแบบกำลังดันคงที่ (Constant Pressure Expansion Valve) 2. แอ็คเพนชั่นวาล์วแบบใช้ความร้อน (Thermal Expansion Valve) *แอ็คเพนชั่นวาล์วแบบใช้ความร้อนมีใช้กับเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทั่ว ๆ ไป 3. แอ็คเพนชั่นวาล์วแบบลูกลอย (Float Valve) - อีแว๊ปเปอร์เรเตอร์ (Evaporator) เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้สารทำความเย็นเปลี่ยนสถานะกลาย เป็นแก๊สสารทำความเย็นจะดูดความร้อนจากอากาศโดยรอบ ทำให้อุณหภูมิของอากาศที่ถูกเป่าเข้าไปในห้องผู้โดยสารเย็นลง อีแว๊ปเปอร์เรเตอร์ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1. แบบแผ่นครีบรอบท่อ (Plate Fin Type) 2. แบบแผ่นท่อวกวน (Serpentine Type) สารทำความเย็น สารทำความเย็นหรือฟรีออน (Freon) ทำหน้าที่เป็นสารตัวกลางสำหรับถ่ายเทความร้อนออกจากห้องโดยสาร โดยดูดซึมความร้อนเข้าสู่ตัวเองในขณะที่ อุณหภูมิและความดันต่ำ และถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเองในขณะที่อุณหภูมิและความดันสูง สารทำความเย็นแบ่งออกเป็น 4 ชนิด 1. อินออร์แกนิกคอมพาวด์ (Inorganic Compourds) เป็นสารทำความเย็น ได้แก่ พวกแอมโมเนีย ก๊าซกรดกำมะถัน และน้ำ 2. ไฮโดรคาร์บอน (Hydro Carbons) เป็นสารทำความเย็นประเภท มีเทน (Methane) อีเทน (Ethane) โปรเพน (Propane) ซึ่งใช้เป็นสารทำความเย็นได้ แต่มีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยจึงใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีคอล 3.
1 กก. /ตร. ซม. คอมเพรสเซอร์แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. แบบรีซิโพรเคติ้ง (Reciprocating Type) 2. แบบสวอชเพลต (Swash Plate Type) 3.