ประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 1 ( พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) ( พ. ศ. 2325 - 2352) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระนามเดิมว่า ทองด้วง เกิดเมื่อ แรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง จุลศักราช 1098 ตรงกับวันพุธที่ 20 มีนาคม พ. 2279 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เป็นบุตรคนที่ 4 ของหลวงพินิจอักษร ( ทองดี) กับ นางดาวเรือง ( หยก) มีพี่น้องดังนี้ คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ สา ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็น พระเจ้าพี่นางเธอ กรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี คนที่ 2 เป็นชายชื่อ ขุนรามณรงค์ ถึงแก่กรรมก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 คนที่ 3 เป็นหญิงชื่อ แก้ว ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าพี่นางเธอ กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ คนที่ 4 เป็นชายชื่อ ทองด้วง ( รัชกาลที่ 1) คนที่ 5 เป็นชายชื่อ บุญมา ( กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) เมื่อเจริญวัยได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กในสมัยสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิจ ( ขุนหลวงดอกมะเดื่อ) พ. 2300 อายุ 21 ปีได้บวช ณ วัดมหาทลาย เมื่อลาสิกขาบทแล้วกลับเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กหลวง พ. 2303 อายุ 24 ปี ได้สมรสกับนางสาว นาก ธิดาของคหบดีตำบลอัมพวา แขวงเมืองสมุทรสงคราม พ. 2304 อายุ 25 ปีในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาสอมรินทร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกบัตรเมืองราชบุรี พ.
2352 ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ รวมพระชนมายุได้ 73 พรรษา เสด็จอยู่ในราชสมบัติ 27 ปี พระบรมศพถูกเชิญลงสู่พระลองเงินประกอบด้วย พระโกศทองใหญ่ แล้วเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร ตั้งเครื่องสูงและเครื่องราชูปโภคเฉลิมพระเกียรติยศตามโบราณราชประเพณี พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ประโคมกลองชนะตามเวลา ดังเช่นงานพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดินสมัยกรุงศรีอยุธยาทุกประการ จนกระทั่ง พ.
2311 ในสมัยพระเจ้าตากสิน ได้รับราชการมีฐานันดรศักดิ์เป็น พระราชวรินทร์ ( กรมพระตำรวจหลวง) เมื่อเสร็จศึกในการปราบชุมนุมพิมาย ได้เลื่อนขึ้นเป็น พระยาอภัยรณฤทธิ์ พ. 2313 เมื่อครั้งปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง มีความชอบได้เป็น พระยายมราช และทำหน้าที่สมุหนายกอีกด้วย พ. 2314 ได้เลื่อนขึ้นเป็น เจ้าพระยาจักรี คุมทัพไปรบกับพม่าเสร็จศึกพม่าแล้ว ได้ยกทัพไปตีเขมรมาเป็นเมืองขึ้น พ. 2319 เป็นแม่ทัพไปตีเขมรป่าดง ( สุรินทร์ ขุขันธ์ สังขะ) แคว้นลาวทางใต้ ได้เมืองจำปาศักดิ์ สีทันดร อัตตะปือ เสร็จศึกได้เลื่อนขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก พิลึกมหมา ทุกนัคราระอาเดช นเรศรราช สุริยวงศ์ องค์อัครบาทมุลิกากร บวรรัตนปรินายก พ. 2324 ยกทัพไปปราบจลาจลในเขมรแต่ไม่สำเร็จเพราะเกิดกบฏในกรุงธนบุรีต้องยกทัพกลับ พ.
พระบาทสมเด็จพระปรโมรุราชามหาจักรีบรมนารถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (พระราชสมภพ 20 มีนาคม พ. ศ. 2279 — สวรรคต 7 กันยายน พ. 2352) เป็น พระมหากษัตริย์ไทย พระองค์แรกใน ราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพุธ เดือน 4 แรม 5 ค่ำ ปีมะโรงอัฐศก เวลา 3 ยาม ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม พ. 2279 ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ. 2325 ขณะมีพระชนมายุได้ 46 พรรษา และทรงย้ายราชธานีจาก ฝั่งธนบุรี มาอยู่ ฝั่งพระนคร และโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประทับ อ้างอิงรูป พระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า ทองด้วง เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.
1144 ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.
2218 ได้เลื่อนเป็นพระยายมราชที่สมุหนายก เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝางพระชนมายุ 35 พรรษาพ. 2314 ได้เลื่อนเป็นเจ้าพระยาจักรีเมื่อคราวเป็น 2 แม่ทัพไปตีเขมรครั้งที่พระชนมายุ 41 พรรษาพ. 2321 เมื่อคราวเป็นแม่ทัพใหญ่ไปตีเมืองลาวตะวันออกได้เลื่อนเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก พ. 2323 เป็นครั้งสุดท้ายที่ไปปราบเขมรขณะเดียวกับที่กรุงธนบุรีเกิดจลาจล จึงเสด็จยกกองทัพกลับมากรุงธนบุรีเมื่อพ. พระชนมายุ 32 พรรษาในระหว่างที่รับราชการอยู่กับพระเจ้ากรุงธนบุรีได้เลื่อน ตําแหน่งดังนี้พระชนมายุ 33 พรรษาพ. 2312 ได้เลื่อนเป็นพระยาอภัยรณฤทธิ์เมื่อพระเจ้า กรุงธนบุรีปราบชุมนุมเจ้าพิมายพระชนมายุ 34 พรรษาพ. 2325 พระองค์ทรงปราบปราม เสี้ยนหนามแผ่นดินเสร็จแล้วจึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติปราบดาภิเษกแล้วได้มีพระราชดํารัสให้ขุดเอาหีบพระบรมศพของพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นตั้งณเมรุวัดบาง ยี่เรือพระราชทานพระสงฆ์บังสุกุลแล้วถวายพระเพลิงพระบรมศพการมหรสพเสร็จแล้วให้มี ( พระราชประวัติรัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรีพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประสูติพ. 2310 ขึ้นครองราชย์พ. 2353 - พ. 2367) การแปล กรุณารอสักครู่..
2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้สี่พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี จนถึงเดือนพฤษภาคม พ. 2476 จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน พ. 2477 เมื่อพระองค์เจ้าอานันทมหิดล พระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี ก็ทรงได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุยเดช" พ. 2488 ทรงรับประกาศนียบัตรทางอักษรศาสตร์ จากโรงเรียนยิมนาส คลาซีค กังโตนาล แล้วทรงเข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยโลซาน แผนกวิทยาศาสตร์ วันที่ 9 มิถุนายน พ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน โดยต้องพระแสงปืนที่พระกระหม่อม ณ พระที่นั่งบรมพิมาน สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชได้ตัดสินพระทัยรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์ในวันเดียวกันนั้น แต่เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา จึงทรงอำลาประชาชนชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม แต่เปลี่ยนสาขาจากวิทยาศาสตร์ ไปเป็นสาขาสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับตำแหน่งประมุขของประเทศทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.
2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม ซึ่งในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมีพระราชโอรสและพระราชธิดาด้วยกันสี่พระองค์ตามลำดับดังต่อไปนี้ 1. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี 2. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร 3. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี 4. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ทรงครองราชย์เป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย โดยสามารถสรุปได้ดังนี้ -มูลนิธิชัยพัฒนา -มูลนิธิโครงการหลวง -โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา -โครงการหลวงอ่างขาง -โครงการปลูกป่าถาวร -โครงการแก้มลิง -โครงการฝนหลวง -โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน -โครงการแกล้งดิน -กังหันชัยพัฒนา -แนวพระราชดำริ ผลิตแก๊สโซฮอล์ในโครงการส่วนพระองค์ (พ.
๒๓๒๘ นายบุญมา การตั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสถาปนาพระราชวงศ์และข้าราชการที่ทำความดีความชอบขึ้นดำรงตำแหน่งที่สำคัญดังนี้ 1. โปรดให้สมเด็จพระอนุชาธิราช ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช หรือ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ( วังหน้า)นามว่า " กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท " 2. สถาปนาพระโอรสองค์ใหญ่ ( ฉิม) เป็น เจ้าฟ้า กรมหลวงอิศรสุนทร ต่อมาภายหลังได้เป็นกรมพระราชวังบวรมหาอิศรสุนทร ในตำแหน่งวังหน้า หลังจาก กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทิวงคตแล้ว 3. สถาปนาพระโอรสองค์รอง ( จุ้ย) เป็น เจ้าฟ้า กรมขุนเสนานุรักษ์ 4. สถาปนาพระยาสุริยอภัย ( ทองอิน) พระเจ้าหลานเธอ เป็น เจ้าฟ้า กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ หลังจากเสร็จศึกสงครามเก้าทัพแล้ว พ. 2328 ได้ขึ้นเป็น กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข ( วังหลัง) ซึ่งตำแหน่งวังหลังนี้ มีครั้งเดียวในสมัยรัตนโกสินทร์ 5.
2331 he emphasized as a Buddhist monk in the temple of the Emerald Buddha Temple This is his first ordination in this temple is to memorize. At the end of three months. At present is วัดสมอราย emperor temple, after he had telephone network that event her daughters in her Royal Highness The Princess กรมพระศรีสุดารักษ์ 2336 fund started by his father City Dawei time 2 BCประวัติของรัชกาลที่ 1-9 พระราชประวัติรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( ประสูติพ. ศ. 2279 ขึ้นครองราชย์พ. พ. 2325 - พ. 2352) มีพระนามเดิมว่าทองด้วงพระราชประวัติธรณินทราธิราชรัตนากาศภาสกรวงศ์องค์ปรมาธิเบศรตรีภูวเนตรวรนารถนายกดิลกรัตนสมุทัยวโรมนต์สกลจักรฬาธิเบนทร์สุริเยนทราธิบดินทรหริหรินทรธาดาธิ ชาติอาชาวศรัยบดีศรีสุวิบุลยคุณธขนิษฐ์ฤทธิราเมศวรมหันต์บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชไชยพรหมเทพาดิเทพนฤดินทร์ภูมินทรปรามาธิเบศรโลกเชฎฐวิสุทธิ์รัตนมกุฎประเทศคตามหาพุทธางกูร บรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงพระนามเต็มว่าพระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดีศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ "ทรงประสูติเมื่อวันที่ 20 มีนาคมพ.