สัดส่วนการถือหุ้นของ หุ้นส่วน ตอนเริ่มจดทะเบียนบริษัท ผู้ร่วมก่อตั้งก็จำเป็นต้องแบ่งสัดส่วนหุ้น ซึ่งหลายๆ คนที่เป็นเพื่อกัน ก็มักจะหารตามจำนวนผู้ถือหุ้นเลย เช่น ทำ 3 คน ก็คนละ 33. 33% ซึ่งการแบ่งแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาตามาทีหลัง (เช่นคนนึงทำงานหนักกว่าอีกคน แต่ได้หุ้นเท่ากัน) การแบ่งสัดส่วนหุ้นควรแบ่งตามหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความทุ่มเทให้กับบริษัท ผู้ที่เสียสละและทุ่มเทให้กับบริษัทมากกว่า สมควรได้จำนวนหุ้นที่สูงกว่า ซึ่งผู้ถือหุ่นทุกคนควรแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน เช่น คนนี้ดูเรื่องการตลาด (CMO) อีกคนดูเรื่องการเงิน (CFO) อีกคนเป็น CEO เพราะหากไม่แบ่งหน้าที่ให้ชัดตั้งแต่ต้น ต่อไปมะนจะเริ่มตีกันมั่วจนไม่รู้ว่าใครควรทำอะไร 2. ระบบการเงิน ถึงแม้ว่าตอนเริ่มจะยังไม่มีเงินเข้าสักบาทก็เถอะ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคุยให้เคลีย เพราะเมื่อธุรกิจเริ่มทำเงินอาจจะเกิดการทะเลาะกันได้ ระบบการเงินในบริษัทแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ เงินเดือนผู้ร่วมก่อตั้ง สัดส่วนเงินปันผล สัดส่วนเงินสำรองการใช้จ่ายในบริษัท (ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าวัตถุดิบ ฯลฯ) คุยกันให้ชัดเจนว่า จะแบ่งเงินเดือนกันคนละเท่าไหร่ (**แบ่งตามหน้า และความรับผิดชอบที่ ไม่ใช่คิดแค่ว่าทำ 3 คนและหาร 3 แบบนี้เจ๊งแน่) หรือหากไม่เอาเงินเดือน จะจ่ายเป็นปันผลแทนไหม?
เริ่มเล่น GTA Online ต้องทำอะไรบ้าง มาดูกัน - YouTube
ในตลาดมีหุ้นมากมายหลายตัว การเลือกหุ้นดีถูกทางเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่การเลือกหุ้นแล้วผิดทาง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก "บทเรียน" นั้นจะมีค่ามาก หากเราได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง
05 5. 10 บาท โอเค สูงกว่าเป้านิดหน่อยเข้าได้ แต่ถ้าเปิดมากระโดดเป็น 5. 50 บาท เราเข้าไปไล่ซื้อเลย วิธีนี้ผิด นั่นไม่เรียกว่ากำหนดกลยุทธ์ การกำหนดกลยุทธ์หมายความว่า ถ้าเมื่อวานปิดที่ 5บาท เราตั้งเป้าจะซื้อวันนี้ที่ 5 5. 10 บาท แล้วขาย 5.
16 ธันวาคม 2560 51, 490 หลักทรัพย์บัวหลวง แนะวิธีดู "หุ้นจบรอบ" หุ้นจบรอบแล้ว… ทำ New Low แล้ว New Low เล่า จะดูได้อย่างไร? หลักทรัพย์บัวหลวง มีคำตอบมาฝาก แน่นอนว่า เราไม่สามารถเห็นราคาหุ้นแล้วบอกได้ทันทีเลยว่า หุ้นตัวนี้จะลง เพราะต้องอาศัยข้อมูลหลายๆ สัญญาณประกอบกัน โดยเฉพาะสัญญาณที่บอกว่า หุ้นตัวนี้เริ่มเข้าสู่ขาลงแล้วจริงๆ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 สัญญาณหลักดังต่อไปนี้ (เริ่มจากสัญญาณที่มีอนุภาพน้อยไปหามาก) 1. แท่งแทียน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการซื้อขายหุ้นแบบระยะสั้น หรือ "Day Trade" มาดูกันว่า หากเกิดแท่งเทียนแบบไหนกันจะทำให้เขาเลือกที่จะลดพอร์ตการลงทุน!!
หลุดเส้น "Trend Line" ชักเริ่มไม่ดีแน่!! เส้น "Trend Line" แบบนี้ เราจะลากเส้นต่อเมื่อดูหุ้น 2 แบบ คือ หุ้นขาขึ้น และ หุ้นขาลง เส้น Uptrend จะตีที่ฐาน หรือที่ตูดของราคาหุ้นที่วิ่งยกตูดสูงไปเรื่อยๆ คือ อยู่ใน Trend ขาขึ้น แต่เมื่อไรที่มีสัญญาณไม่ดี คือ หลุดเส้น Trend Line ขาขึ้นนั้น เราจะเจอกับแรงขายกระชับพอร์ต เส้น Downtrend ตีที่ยอด หรือที่หัวของราคาหุ้นที่พยายามยกหัวสูงขึ้น หุ้นที่เคลื่อนไหวใต้เส้นนี้ยังบ่งบอกได้ว่าหุ้นนั้นยังคงอยู่ในช่วงขาลง แต่เมื่อไรที่ราคาหุ้นเริ่มยืนเหนือเส้น Downtrend นั้น แสดงว่าแนวโน้มขาลงใกล้สิ้นสุดลง และถึงเวลาของแนวโน้มขาขึ้นกันแล้ว!! 3. Volume ปริมาณการซื้อขาย ทุกครั้งที่มีการ Action กับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ไม่ว่าหุ้นวิ่งขึ้นขยับเหนือเส้น Downtrend มาได้ หรือวิ่งสวนทางหลุดเส้น Uptrend ลงมาแรง ทุกครั้งจะต้องมี Volume เป็นแรงสนับสนุน ดังวลีที่กล่าวว่า "Trend are confirmed by Volume" แนวโน้มที่เกิดขึ้นต้องยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย… Volume เป็นสิ่งที่บอกว่า นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่กำลังคิดอะไรกันอยู่!! เพราะตามหลักการของ Technical Analysis หากช่วงเวลาใดที่มี Volume มากจะเป็นสิ่งยืนยันการเกิดแนวโน้มใหม่หรือจบแนวโน้มเดิม… กรณีหุ้นขึ้น และ VOL.
เก็งกำไรต้องยอมเก็งขาดทุน เมื่อเข้าจังหวะผิด 2. อย่าเลี้ยงลูกเป็นฝูง 3. อย่าฝืนตลาด เริ่มเมาหมัดต้องหยุด 4. ต้องมีระเบียบวินัย 5. ตามกลิ่นเม็ดเงิน 6. ดูจังหวะซื้อขาย สังเกตปริมาณราคาย้อนหลัง 7. รู้เขารู้เรา ศึกษาข้อมูลกิจการ 8. ศึกษาพฤติกรรมของหุ้น2 3 ตัว ก็เพียงพอ 9. กำหนดกลยุทธก่อนการลงทุน 10. รู้จัก Stop Loss และ Take Profit credit: Financeseed: เล่นหุ้นอย่างไรให้รวยโคตรๆ